• Welcome to ลงประกาศฟรี โพสฟรี โปรโมทเว็บไซด์ให้ติดอันดับ SEO ด้วย PBN.
 

poker online

ปูนปั้น

ตับมีปัญหา เป็นทำไม ? รักษาได้อย่างไร ?

Started by luktan1479, January 04, 2023, 02:51:11 PM

Previous topic - Next topic

luktan1479

ตับมีปัญหา ต้องรีบหาทางแก้ รีบดูแล บำรุง รักษาให้กลับมาแข็งแรงอีกรอบ เพราะเหตุว่าหากปล่อยไว้ให้ไขมันพอกตับ หรือปล่อยให้ตับอักเสบจนเรื้อรัง ก็เป็นบ่อเกิดของโรคตับแข็ง แล้วก็มะเร็งตับได้เช่นกัน โดย Rohit Satoskar กรรมการผู้จัดการจาก MedStar Georgetown สถาบันปลูกถ่ายมีชื่อ กล่าวย้ำเตือนถึงจุดสำคัญของตับเราเอาไว้ว่า "ตับ เป็นอวัยวะที่ง่ายต่อการเสียหาย หากคุณไม่ดูแลมันให้ดี.. และก็เมื่อมันเสียหายไปแล้วครั้งหนึ่ง มันก็ไปลับ ไม่อาจหวนคืนมาดังเดิมได้" แล้วเราจะทราบได้เช่นไรว่าตับกำลังเจอปัญหา แล้ว สาเหตุ ตับมีปัญหา มาจากอะไร..? แล้วก็ควรจะดูแลบำรุงยังไง..? เนื้อหานี้มีคำตอบให้คุณ  อวัยวะ "ตับ" ก็เป็นเหมือนศูนย์กลางขนาดใหญ่ ทั้งเป็นโรงงานเก็บสินค้า (กักเก็บสารอาหารต่างๆ) เป็นทั้งโรงงานการผลิต (สร้างโปรตีน สร้างลิ่มเลือด อื่นๆอีกมากมาย) และยังเป็นโรงงานดัดแปลง (จากคาร์โบไฮเดรตไปเป็นน้ำตาล ที่ร่างกายจะเอาไปใช้เป็นพลังงาน) ถ้าร่างกายขาดหัวใจแล้วต้องตาย..ร่างกายที่ขาดตับก็เสมือนตายทั้งเป็น คำกล่าวที่ว่าตับเป็นเหมือนหัวใจดวงลำดับที่สองของร่างกาย จึงไม่ได้เกินเลยแต่อย่างใดหน้าที่ของตับ มีอะไรบ้าง ?ในส่วนของการสร้าง
- สร้างโปรตีนที่จำเป็นต่อร่างกาย ซ่อมส่วนที่สึกหรอ
- สร้างโปรตีนซึ่งทำให้เลือดเราแข็งตัว อย่างไฟบริโนเจน (Fibrinogen) โดยจะถูกสังเคราะห์ขึ้นที่ตับ
- สร้างโปรตีนที่ปฏิบัติหน้าที่ เป็นองค์ประกอบของเลือด ได้แก่ อัลบูมิน ที่ช่วยอุ้มน้ำสารอาหารและเกลือแร่ไว้ในเส้นเลือด
- สร้างน้ำดี ย่อยเผาผลาญไขมัน รวมทั้งมีส่วนช่วยในระบบเผาผลาญร่างกาย
- สร้างสารชนิดไขมัน แล้วก็ถึงสารตั้งต้นของฮอร์โมนบางชนิด
ในส่วนของการกักเก็บ
- ตับจะเป็นแหล่งกักเก็บไกลโคเจน เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานนำไปให้ร่างกายใช้
- เก็บวิตามินและเกลือแร่บางประเภทที่จำเป็น
ในส่วนของการแปรรูปและอื่นๆ
- ตับคอยดัดแปลง ของกินและยาให้อยู่ในรูปที่ร่างกายสามารถนำเอาไปใช้งานได้
- ชวยล้างพิษ กรองพิษในเลือด
- ขับของเสียออกมาจากร่างกายในแบบฉี่ หรือถ่ายมากับน้ำดี  สาเหตุ ตับมีปัญหา
จริงแล้วการที่ตับพัง หรือตับต้องประสบปัญหาเสื่อมโทรมสามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุทั้งจากเชื้อไวรัส หรือโรคที่มีสาเหตุเนื่องมาจากกรรมพันธุ์ตั้งแต่กำเนิด แต่หลักๆที่ทำให้คนจำนวนมากเกิดการอักเสบที่ตับ ค่าตับสูง มักมีต้นเหตุที่เกิดจากพฤติกรรมทำร้ายตับตัวอย่างเช่น
1.ดื่มแอลกอฮอล์
2.ชอบทานอาหารไขมันสูงอย่างของมัน ของทอด
3.ทำงานมาก มีความตึงเครียด
4.ชอบนอนดึก ตื่นสาย
5.กินยาหรืออาหารเสริมมากเกินไป
6.ขาดการบริหารร่างกาย
7.นั่งหรือนอนอยู่กับที่เป็นระยะเวลาที่ยาวนาน (เกิน 2 ชั่วโมง)
8.ไม่กินอาหารยามเช้า
9.ชอบรับประทานอาหารครึ่งดิบครึ่งสุก
10.ทำงานเกี่ยวกับ สารพิษ สารเคมี
11.มีเพศสัมพันธ์โดยไม่ป้องกันกับหลายบุคคลพวกนี้ล้วนเป็นหนึ่งในพฤติกรรมทุกวันซึ่งเราบางทีก็อาจจะเลี่ยงไม่ได้ที่จะต้องเจอ จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่า "ตับ" ของเรานอกจากจะทำงานหนัก 1 วันแล้ว ยังไม่วายถูกทำร้ายในทุกวี่ทุกวันอีกด้วย โดยเราอาจจะลองดูอาการที่เป็น สาเหตุ ตับมีปัญหา ผ่านสัญญาณที่ร่างกายส่งออกมา เช่น มีลักษณะเหน็ดเหนื่อยง่าย อ่อนเพลีย , มีปัญหาสำหรับการนอน , อาการท้องอืดเสมอๆ, ปวดจุกแน่นที่ชายโครงขวา , ความต้องการอาหารน้อยลง , แขนขา ท้องบวมโต เป็นต้นถ้าคุณเริ่มมีหนึ่งในอาการดังกล่าวข้างต้นแล้วยังปล่อยปละละเลยกลับมาดูแลตับอีก.. รู้สึกตัวอีกครั้งความน่าสะพรึงกลัวของโรคตับก็จะแสดงออกมาอย่างชัดเจนก็ในขั้นร้ายแรงอย่างตอนเป็นตับแข็ง หรือมะเร็งตับไปเสียแล้ว  การดูแลรักษาตับพื้นฐาน
"ตับ" เป็นอวัยวะที่สามารถฟื้นฟูตนเองได้ โดยทางด้านทฤษฎีหากเราตัดตับทิ้งไป 3 ส่วน เจ้าตับเองก็สามารถฟื้นฟูกลับไปเป็นรูปร่างแบบเดิมได้ภายในไม่กี่อาทิตย์ ฉะนั้นเมื่อเราเผลอมีพฤติกรรมทำร้ายตับโดยไม่รู้ตัว ตับเองก็ฟื้นฟูตนเองได้ แต่มิได้แปลว่าคุณจะใช้งานมันอย่างหนักหน่วง หรือเฉยเมยให้ตับถูกทำร้ายโดยไม่ใส่ใจได้ ด้วยเหตุว่าถ้าเกิดตับอักเสบซ้ำๆจนเกิดพังผืดเกาะกินกลายเป็นโรคตับแข็ง ตับก็หมดสิทธิ์ฟื้นตัว ยิ่งมะเร็งยิ่งไม่ต้องพูดถึง.. สิ่งสำคัญที่สุดเป็น การใส่ใจบำรุงตับเพื่อคุ้มครองปกป้องไว้ก่อน ดีกว่าที่จะตามไปรักษาในภายหลังเมื่อเรามีพฤติกรรมที่ทำร้ายตับ ก็ควรจะเริ่มเปลี่ยนแปลงไลฟ์สไตล์ให้ตับได้แข็งแรงมากยิ่งขึ้น
(1) ปรับพฤติกรรมการกินอาหาร
ลดอาหารไขมันสูง ของทอด ของมัน
ในส่วนเนื้อสัตว์เน้นไปที่เนื้อปลา หรือเนื้อไก่ แทนพวกเนื้อสีแดง (อย่างเนื้อหมู หรือเนื้อวัว) เพื่อลดจำนวนไขมันอิ่มตัวที่จะได้รับ
หลีกเลี่ยงขนมหวาน เค็มจัด ใช้พวกเครื่องเทศให้กลิ่นแล้วก็รสชาติแทนน้ำตาลแล้วก็ผงชูรส
กินอาหารปรุงสุก รักษาสุขลักษณะ ลดความเสี่ยงสำหรับในการติดเชื้อไวรัส(2) หมั่นขยับร่างกายเสริมความแข็งแกร่งให้ตับ
บริหารร่างกายให้ได้ 150 นาที/อาทิตย์ (หรืออย่างน้อย 60 นาที/อาทิตย์)
ระหว่างที่ทำงานหาเวลาลุกเดิน 5-10 นาที หรือปรับเปลี่ยนอริยาบททุก 1-2 ชั่วโมง
ฝึกการหายใจเข้า-ออกลึกๆ เพื่อให้ออกซิเจนเข้าไปกำจัดของเสียในเลือด รวมถึงก๊าซ ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ก็ช่วยในระบบหมุนเวียนเลือดได้(3) หลีกเลี่ยงการรับสารเสพติด หรือสารเคมี
ในกรณีที่ไม่สามารถเลิกได้ พยามยามลดการดื่มแอลกอฮอล์ หรือการสูบยาสูบให้ลดลงที่สุด
เลี่ยงการเข้าไปในพื้นที่เสี่ยง หรือรอบๆที่มีการแปดเปื้อนของสารเคมี บริเวณที่มีฝุ่นควัน มลภาวะหนาแน่นหากปรับพฤติกรรมการใช้ชีวิตได้ ตับย่อมกลับมาแข็งแรงทำงานได้เต็มประสิทธิภาพดังเดิม เพิ่มเติมเป็นแม้คิดว่าพฤติกรรมเหล่านี้เราอาจทำเป็นยาก ลองมองเทคนิคน่าสนใจ ที่จะช่วยคลีนตับเราได้กัน..  เคล็ดลับ(ไม่)ลับน่าสนใจ คู่การดูแล ตับมีปัญหา
"เรื่องกิน..เรื่องใหญ่" อาหารที่เรารับเข้าไปในทุกๆวันก็ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงยิ่งใหญ่ให้แก่ตับได้ด้วยเหมือนกัน ซึ่งทานเข้าไปแล้วตับจะดียิ่งขึ้นหรือแย่ลง ก็ขึ้นกับว่าเรากินอะไรลงไป.. และก็นี่เป็น 3 ตัวช่วยน่าสนใจที่สามารถคลีนตับที่มีปัญหาของเราได้ตัวช่วยแรก #ซูเปอร์เครื่องเทศ - กระเทียม
ถึงจะพบเห็นได้ตามท้องตลาดทั่วๆไป เปิดตู้แช่เย็นเราก็เจอ แต่เครื่องเทศที่ดูบ้านๆนี้ซ่อนเร้นไปด้วยสรรพคุณที่ไม่ได้บ้านตาม โดยกระเทียมจะช่วยกระตุ้นกระบวนการดีท็อกซ์ และก็ป้องกันตับจากสารพิษ รวมทั้ง Advanced Biomedical Research (2016) ยังได้เผยแพร่งานศึกษาค้นคว้าและทำการวิจัยว่ากระเทียมผงช่วยในการลดไขมันในคนที่มีสภาวะไขมันพอกตับได้อีกด้วยตัวช่วยสอง #ซูเปอร์ฟรุ๊ต - พรูนัส มูเม่
แม้ชื่อจะไม่คุ้นหูคนอีกหลายๆคน แต่มันเป็นสารสกัด ซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่จากฝรั่งเศสซึ่งช่วยลดการสะสมของไขมันส่วนเกินในตับ และลดอาการอักเสบของตับได้ โดยจะมีสารสำคัญในการออกฤทธิ์เป็น กรดโอลีโนลิกรวมทั้งกรดเออโซลิก ซึ่งมีคุณลักษณะเพิ่มกระบวนการเมตา.ิซึมในตับ รวมถึงสามารถลดไขมันเลวเพิ่มไขมันดี ซึ่งทำให้ตับมีสุขภาพแข็งแรง ทำงานได้อย่างเต็มความสามารถตัวช่วยสาม #ซูเปอร์เครื่องดื่ม - ชาเขียว
ชาเขียวนับว่าเป็นเครื่องดื่มที่ช่วยคลีนตับชั้นเยี่ยม โดยในปี 2015 The World Journal of Gastroenterology มีการทำการค้นคว้าว่า ชาเขียว ช่วยลดระดับไขมันในเลือดตลอดจนถึงส่วนต่างๆภายในร่างกาย อีกทั้งพบว่า คนที่ดื่มชาเขียวปริมาณ 5 - 10 แก้วต่อวัน สามารถช่วยลดไขมันพอกตับได้อีกด้วย แล้วก็ยิ่งชงอ่อนๆจิบเบาๆทั้งวันยังช่วยดีท็อกซ์ล้างสารพิษได้อีกด้วยสรุป
ตับมีปัญหา ปล่อยปัญหาไว้ก็จะยิ่งสะสมจนกระทั่งโรคร้ายอาจถามหาโดยไม่รู้ตัว เมื่อจะต้องใช้ชีวิตและมีพฤติกรรมทำร้ายตับอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ตัวช่วยดีๆหรือการปรับพฤติกรรมก็เป็นสิ่งสำคัญที่สามารถป้องกันและก็ลดความเสี่ยงสำหรับในการเป็น ตับแข็ง หรือโรคมะเร็งตับ โรคยอดนิยมที่คร่าชีวิตชาวไทยกันติดท็อป 5 ของไทยเรากันเลยทีเดียว"สู้เพื่อตับวันนี้..ชีวิตดีวันหน้า" ร่างกายที่แข็งแรงเราทำขึ้นเองได้.. โดยถ้าหากสงสัย หรือมีปัญหาสุขภาพตับต้องการขอความเห็นผู้ที่มีความชำนาญ ขอรับคำปรึกษาปัญหาด้านสุขภาพกันได้ฟรีๆที่ Fanpage และ Line : @ Hepheka ซึ่งจะมีกลุ่มผู้ที่มีความชำนาญแล้วก็เภสัชกรพร้อมให้คำแนะนำคุณในทุกเวลา