กล่าวยังไง ให้ลำพองใจคนฟัง ให้เขารักเรา

[PostDD]

1. เริ่มประโยค ด้วยความเป็นกันเอง

บางครั้งก็อาจจะเป็นการถามส า ร ทุกข์สุกดิบด้วยความห่วงใยรวมทั้งเอาใจใส่ในคำตอบของเขา อย่าลืมใช้คให้ำอ่อนโยน สมควร แล้วก็นุ่มนวลด้วยนะคะ "เป็นยังไงบ้ า งหยุดย า วที่ผ่านมา

ไปเที่ยวไหนมาบ้ า งขา" การใช้ความคุ้นเคยจะทำให้อีกข้างรู้สึกผ่ อ น คลายรวมทั้งเป็นมิตรด้วยนะคะ อีกประเด็นคืออวัจนะภาษาจ้ะ ลักษณะท่าทางการพูดที่ถูกถ่ายทอดออก


กริ้วโกรธหว่างดวงตาเราหรือการสัมผัสอะไรบางอย่างอาทิเช่น การแตะต้องไหล่เพื่อแรงใจ การจับมือเพื่อปลอบโยนปะโลม ตบมือให้เพื่อพลังใจ ก็เป็นสิ่งที่จะทำให้ท่านและก็เค้าเข้าถึงกันได้ง่ายดายมากยิ่งขึ้น

2. ฝึกฝนกล่าว คำว่า"ไม่" แล้วชีวิตคุณจะ "ใช่"

ด้วยเหตุว่าคำว่า"ไม่" มันกล่าวให้ดูดีย า ก บอกบอกความหมายเป็นบวกได้ย า กมากมาย คำบางคำเป็นคำที่มักนำมาใช้ทำร้ า ย จิตใจบุคคลอื่น แสดงถึงความรู้สึกไม่พอใจในตัวเขาหรืองานของเขา ผู้คนจำนวนมากใช้คำนี้กระทั่งกลายเป็นนิสัยซึ่ง

ไม่เป็นผลดีกับตัวคุณเองเลยล่ะค่ะ อย า กให้ลองเปลี่ยนการใช้มันมองนะคะ เป็นต้นว่า "ลองทำแบบนี้ดูดีไหม" "แบบงี้ก็ดีแล้วนะ หากเพิ่มส่วนนี้อีกหน่อยคุณคิดว่าจะเป็นอย่างไรค่ะ" หมายความว่า พวกเรามิได้ปฏิเสธความนึกคิดของอีกข้างแต่ว่าทดลองชี้แนะเพิ่มอีกเสมือนการเสนอแนะเขา

3. มองให้ได้ 3 มุม

การพูดเป็นราวกับกระบี่ 2 คม ไม่ทิ่มแ ท ง เค้า ก็ย้อนกลับมาแ ท ง ที่ตัวเราเอง "สติ"อย่างเดียวอาจน้อยเกินไป คุณจะต้องฝึกหัดวิธีการการคิดอย่างมีสติสัมปชัญญะและก็พินิจพิจารณาไปพร้อมเพียงกันด้วยจ้ะ

มองว่าธรรมชาติของเค้าเป็นคนเช่นไร เรื่องไหนควรจะกล่าว เรื่องไหนไม่สมควรกล่าว แต่ที่สำคัญไปๆมาๆกกว่านั้น ทุกคราวถ้าเกิดจะมีการว่ากล่าว ตัดเตือน ปรับแต่งข้อบกพร่องของงาน ให้ลองมองให้ได้ 3 มุม


1. มุมของเรา : เราคิดว่ายังไง ในตำแหน่ง หน้าที่พวกเรา พวกเราควรดูแบบไหน ไขปัญหายังไง


2. มุมของเค้า : ถ้าพวกเราเป็นเค้าพวกเราจะทำยังไง หากพวกเราตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน โดนอย่างนี้แบบเดียวกันเราจะรู้สึกเช่นไร แล้วเราจะขจัดปัญหานั้นแบบไหน

3. มุมของบุคคลที่3 หรือคนอื่นที่มอง 2 คนนี้อยู่ : เค้าทำอะไรกัน สิ่งที่เป็นปัญหาก็คืออะไร เล็ก ใหญ่ขนาดไหน ขนาดที่จำเป็นที่จะต้องทะเลาะกันเลยอย่างงั้นหรือ วิวาทด้วยเรื่องนี้เหตุผลมาจากอะไร เป็นต้น

ถ้าคุณมองให้ได้ครบทุกมุม คุณจะมองเห็นทุกด้านของความคิด เข้าใจเค้า รู้เรื่องพวกเรา รู้เรื่องสถานการณ์ที่เกิดมากเพิ่มขึ้น

4. อย่าติคนใด ซึ่งๆหน้าบุคคลอื่น

ไม่มีผู้ใดถูกใจการเช็ดกตำหนิจ้ะ พวกเราก็เช่นเดียวกันใช่ไหมล่ะคะ ยิ่งโดนดุเฉพาะหน้าคนอื่นๆด้วยแล้วล่ะก็ มันช่างเ จ็ บ แค้นแสนรุนแรงเสียอย่างยิ่งจริงๆการด่าคนใดกันต่อหน้าต่อตาคนอื่นมันเป็นการตั้งอกตั้งใจฉีกหน้าเค้าให้พังยับชนิดที่เรียกว่า

ผู้ที่โดนด่านั้นจะจำฝังใจไปกระทั่งวันต า ย อย่างยิ่งจริงๆ และความข้องเกี่ยวระหว่างคุณแล้วก็เค้าจะเสียไปในทันทีทันใด สุดท้ายแล้วไม่มีฝ่ายไหนชนะ ไม่มีใครได้ประโยชน์จากวิธีการทำอย่างนี้จ้ะ โดยเหตุนี้แล้วถ้าไม่ใช่เรื่องที่ก่อให้เกิดผลเสียต่อส่วนรวมเสนอแนะว่าไม่สมควรทำอย่างยิ่งค่ะ

5. มีนายช่างฝีมือชม

ดูเมื่อเค้าประพฤติดี ดำเนินการเจริญ ช่วยเหลือคนอื่นๆ ส่งผลงานที่ดี ทำตัวดี คุณก็ควรชมเค้าด้วยความจริงใจที่ประสงค์ดี คำพูด คำจา น้ำเสียงที่ดี หน้าตาดีใจพลอยยินดีไปกับเค้าด้วย ด้วยเหตุว่าสิ่งเหล่านี้ส่งผลต่อความรู้สึกมากนะคะ คนที่ถูกชมเค้าจะเหมือนได้รับของขวัญพิเศษจากคุณ ทำให้มีแรงกระตุ้น มีพ ลั ง ที่จะทำสิ่งนั้นให้ดีมากๆขึ้นไป

การมีศิลปกรชมที่ดีนั้น ไม่มีความสำคัญต้องชมที่ผลงานของเค้าแค่นั้นค่ะ อย า กให้ลองชมความน่ารักน่าเอ็นดูของเค้า ความโอบอ้อมอารี ความใส่ใจที่เค้ามีต่อคุณ ชมเครื่องแต่งตัว


ดูพาหนะ ดูกระเป๋าถือเค้า หรือสิ่งบริเวณตัวเค้า เพียงเท่านี้ก็เป็นการสร้างความสบายให้เค้าได้แล้ว และก็เค้าจะกำเนิดภาคภูมิใจเกิดความเชื่อมั่นในตัวเอง แล้วเขาจะรักเรา ถึงแม้เคยเป็นศั ต รู กันโกรธไม่มองหน้ากันก็จะหายโกรธเราจ้ะ ทดลองดูนะคะ

6. อย่ารั ก ษ า ความมีน้ำใจด้วยการพูดอะไรที่มันไม่จริง

บางคนเข้าใจผิดว่าการพูด"รั ก ษ า ความมีน้ำใจ"เป็นการกล่าวในสิ่งที่มันไม่จริงเพื่อให้เค้ารู้สึกดี และก็บางครั้งบางคราวคนเรา ก็ชอบที่จะ "รั ก ษ า ภาพพจน์"(ที่ไม่จริงของตัวเอง)มากยิ่งกว่ารั ก ษ า น้ำใ

จึงเลือกบอกไปในสิ่งที่มันไม่จริงเนื่องจากว่ากลัวว่าถ้าเกิดเราพูดความจริงไป"พวกเราจะดูแย่ รวมทั้งบางครั้งบางคราวก็รั ก ษ า ความเอื้อเฟื้อ ด้วย"การไม่บอก" ซึ่งทั้งการพูดอะไรที่มันไม่จริงและทั้งการไม่บอก

มันไม่ใช่สิ่งที่ควรทำค่ะ เพราะนอกจากจะเป็นราวกับการช่วยส่งเสริมการกระทำของเค้าแล้ว ทำให้เขาไม่รู้ตัว แถมยังหลงเหลิงว่าสิ่งที่ตนเองทำนั้นถูกต้องดีแล้ว

"คิดทุกคำก่อนที่จะบอก แต่ว่าไม่มีความจำเป็นที่ต้องกล่าว ทุกคำที่พวกเราคิด" ไม่พอค่ะ จำต้องเลือกใช้คำที่จะกล่าวให้เหมาะสมด้วย

7. เจอปริศนาที่ต้อง "ฟั น ธง" หรือ "ตัดสินใจ" อะไรบางอย่างแล้วเรายังไม่แน่ใจ ตอบอย่างไรให้ดูดี

หากจะต้องมีการตอบคำถามที่เป็นปริศนาปลายปิด "ใช่" หรือ "ไม่ใช่" ควรจะหรือเปล่าควร ดีไหมดี คุณคิดยังไง จะต้องทำอย่างไร พบปัญหาเหล่านี้แล้วเราไม่รู้เรื่องไหมมั่นใจในคำตอบ

ปัญหาก็คือหากเราไม่ตอบ เราก็มองแ ย่ ถ้าเราตอบแล้วตอบผิด ก็มองแ ย่ ไม่แพ้กัน ด้วยเหตุนี้โอกาสของพวกเราให้เราแถได้แบบแถแล้วดูดี หลักมันอยู่นี้จ้ะ


⁃ คำตอบของคุณจึงควรไม่ไปเกี่ยวโยงคนไหน ไม่เป็นการต่อว่าคนใด


⁃ ใช้เหตุมีผลมารองรับ จะให้น้ำ ห นั ก กับคำตอบเพิ่มมากขึ้น ตอบช้าๆได้ค่ะ ช่างเถอะ ค่อยๆใช้สมอง ตอบอย่างมีสติ เจาะจงถึงเหตุผลที่มาที่ไปให้แน่ชัด

⁃ คุณสามารถอธิบายได้นะคะในบางเรื่อง ว่าหัวข้อนี้"ไม่เกี่ยวกับพวกเราโดยตรง" ด้วยลักษณะงานแล้ว "ฉันอย า กช่วยมากมายๆเลยค่ะ เลยอย า กชี้แนะให้ทดลองขอคำแนะนำทาง... จะได้คำตอบที่มั่นใจกว่านะค่ะ" นี่เป็นการปฏิเสธแบบรั ก ษ า ความมีน้ำใจ

⁃ ถามกลับไป ทวนคำถามเพื่อ พิจารณามุมมองของเขา แล้ว"คุณคิดยังไงบ้ า งค่ะ" แต่กรณีนี้เราจะต้องมีการเพิ่มเติมความเห็นของพวกเราลงไปบ้ า งนะ เค้าจะได้ทราบสึกได้ว่าพวกเรากำลังพย า ย า มช่วยหาคำตอบอยู่

⁃ หาคำตอบมาให้ภายหลัย คุณสามารถตอบในลักษณะที่ว่า "ฉันรู้แต่เพียงว่า... ส่วนที่เพิ่มเติมอีกจะรีบไปค้นหาคำตอบมาให้นะคะ"

"แนวทางพูดอย่างไรให้คนรักนี้" ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามันจะเป็นประโยชน์กับท่านผู้อ่ า น ทุกคนนะคะ และขอขอบคุณมากจากดวงใจที่อ่ า น มันจนถึงบรรทัดนี้ แต่ว่าสิ่งนี้คงเป็นได้เพียงคำแนะนำสั้นๆที่ถูกเลื่อนหายไปจากฟีตหน้าเ ฟ ส บุ๊ ค ของคุณเท่านั้น หากคุณไม่ทดลองเปิดใจ
เทคนิคการพูด
ขอบคุณบทความจาก https://freelydays.com/13493/